Carbon Footprint เกมส์การค้าของโลก

887
ป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์

Carbon Footprint อาจเป็นเกมส์การค้าใหม่ของโลกในอีกไม่นาน

 

ป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์

สภาวะโลกร้อน (climate change) กำลังเป็นภัยคุกคามมนุษย์ ระบบนิเวศน์สิ่งมีชีวิต และธรรมชาติ  อุณหภูมิโดยเฉลี่ยของโลกมีระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลเกิดการเปลี่ยนแปลงฤดูกาลในภูมิภาคต่างๆทั่วโลก  น้ำแข็งในขั้วโลกกำลังละลายอย่างรวดเร็วทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น  คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อมรืร่วมกันในนุษย์ประมาณกว่า 200ล้านคนไม่มีที่อยู่อาศัยในอีก 20ปีข้างหน้า  ภัยพิบัติดังกล่าวนี้กำลังจะเพิ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ  และกำลังส่งผลกระทบต่อระบบการค้าการขายของพวกเรา

เป็นที่ทราบกันดีว่าการเพิ่มขึ้นของภูมิอากาศโลกที่พวกเรากำลังเผชิญอยู่ เป็นผลมาจากพฤติกรรมการใช้พลังงานของมนุษย์  โดยเฉพาะพลังงานจากฟอสซิลทรากพืชทรากสัตว์ีที่ทับถมมานานเมื่อหลายร้อยล้านปีที่แล้ว  เพื่อความสะดวกสบายในการดำรงชีวิต  เราได้ปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซค์ขึ้นสุ่ชั้นบรรยากาศโลกและสร้างปรากฎการณ์โลกเรือนกระจก (greenhouse effect) ในะรยะเวลา 5 ทศวรรษที่ผ่านมาเราได้พัมนาอุตสาหกรรมและการค้าจนก่อให้อุณหภูมิของดวงดาวที่สวยงามและร่มเย็นใบนี้ร้อนระอุในอัตรำการเร่งที่สูงขึ้นเรื่อยๆ

โอกาสที่โลกใบนี้จะร้อนระอุจนเกินที่มนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆจะอยู่อาศัยได้คงเกิดภายในไม่ถึงรอยปีข้างหน้า  จากการตระหนักถึงภัยพิบัติที่กำลังจะมาถึงนี้  ในฝั่งประเทศตะวันตกที่พัฒนาแล้วเริ่มมีการเคลื่อนไหวเพื่อป้องกันวิกฤติที่กำลังคืบคลานเข้ามา  โดยการเปลี่ยนแปลงและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ในการทำธุรกิจและอุตสาหกรรมให้มีทิศทางลดการปล่อยและดูดซับก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซค์จากชั้นบรรยากาศ  นอกจากนี้ยังได้สร้างกฏเกณ์ร่วมกันในการทำธุรกิจและอุตสาหกรรมเรียกว่า “รอยเท้าคาร์บอน หรือ Carbon Footprint” เพื่อใช้แสดงว่ากิจการนั้นๆได้ห่วงใยและลดการปล่อยคาร์บอนไดอ็อกไซค์

ไม่นานมานี้นิตยสารชื่อดัง Frob ได้ตีพิมพ์ข่าวที่น่ายินดีว่า

บริษัทชั้นนำระดับต้นๆของโลก 101 บริษัทให้คำมั่นสัญญาร่วมกันที่จะร่วมกันลดก็าซคาร์บอนไดอ็อกไซค์สู่บรรยากาศโลก เช่น  การปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิต  การบริหารงาน  และใช้วัตถุดิบในการผลิตที่ส่งผลน้อยต่อผลกระทบชั้นบรรยากาศ  และคาดว่าอีกไม่นาน  Carbon Footprint จะเป็นเครื่องมือหนึ่งที่สำคัญในการค้าขายในตลาดโลก

เมืองที่เต็มไปด้วยฝุ่นควัน

สำหรับประเทศไทยมีรายงานว่าสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (Thailand Environmental Institute) ได้ริเริ่มโครงการ Carbon Footprint มาตั้งแต่ปี พศ. 2551อย่างไรก็ตามยังไม่วี่แววที่ชัดเจนว่ากิจการในประเทศส่วนใหญ่จะใช้ Carbon Footprint เป็นเครื่องมือหลักในการช่วยเหลือกันลดปรากฏการณ์โลกร้อน

ปรากฎการณ์เชื่องช้าต่อการห่วงใยปัญหาสภาวะโลกร้อนของกลุ่มธุรกิจการค้าภายในประเทศไทยนี้ อาจทำให้เราตกขบวนไปอยู่หางแถวการค้าขายโลก

รอยเท้าคาร์บอน

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here